เดือนธันวาคมแล้วค่ะ เดือนสุดท้ายของปีมาถึง พร้อมกับบรรยากาศของการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่ากันแล้ว เร็วจังเลยเนอะ แป๊ปๆ
ปีนึงก็ผ่านไป ไวมากๆเลย
หลายๆที่ ตกแต่งร้าน ตกแต่งบ้าน เป็นบรรยากาศของเทศกาลคริสมาสต์ ใครที่ชอบถ่ายรูปก็คงได้โอกาสตระเวนถ่ายไฟ ถ่ายต้นคริสมาสต์สวยๆกันเพลินเลย วันนี้นิหน่าเลยเอาที่มา เรื่องราวของต้นคริสมาสต์มาฝากกัน ต้องขอบคุณเนื้อหาดีดีจากเว็บไซต์www.catholic.or.th ด้วยนะคะ ^^
เรื่องราวของต้นคริสมาสต์ ในสมัยโบราณ ต้นคริสต์มาส หมายถึงต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบผลไม้มากิน และทำบาปไม่เชื่อฟังพระเจ้า และตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์ที่แสดงละครเกี่ยวกับคริสมาสต์ ก็จะมีต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลาง เพื่อประดับฉาก และแสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมเอวา โดยต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ที่หาง่ายที่สุด ในประเทศเหล่านั้น
การแสดงละครคริสต์มาสแบบนี้มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี จนถึงศตวรรษที่ 15 เมื่อการแสดงละเล่นถูกห้าม เพราะเหมือนว่าเป็นการเล่นล้อเล่น ไม่เคารพในความเชื่อ ชาวบ้านรู้สึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสดูละครสนุกๆ แบบสนุกๆ แบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้าน โดยเอาต้นไม้มาไว้ที่บ้าน เพราะต้นไม้เป็นจุดเด่นในลานวัด ที่เขาเคยร่วมสนุกสนานกัน
หลังจากนั้น ก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ล และแขวนแผ่นขนมปัง เพื่อระลึกถึงศีลมหาสนิท ซึ่งมีวิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จนในที่สุด ก็กลายเป็นขนมและของขวัญอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้
นอกจากนั้น ชาวเยอรมันยังมีประเพณีอีกอย่างหนึ่ง คือ มีการจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปปิรามิดไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมีดาวของดาวิดอยู่ที่ยอดปิรามิด ซึ่งประเพณีที่จะแขวนของขวัญและขนมก็ได้ ซึ่งประเพณีของชาวเยอรมันนี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ที่เอาเทียนมาไว้ที่ต้นไม้เป็นรูปทรงปิรามิด นี่เป็นที่มาของประเพณีปัจจุบัน ที่มีการแขวนของขวัญและไฟกระพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส และมีดาวของดาวิดไว้ที่สุดยอด ประเพณีนี้เป็นที่นิยมชอบของชาวตะวันตกอยู่มาก
นี่ก็คือประวัติและที่มาของต้นคริสมาสต์ที่เอามาฝากกันค่ะ ใครที่ลงมือหาต้นคริสมาสต์มาไว้ที่บ้านก็จะได้รู้เรื่อง และก็รู้ว่า เจ้าต้นคริสมาสต์ที่เราแต่งบ้านทุกปีนั้นเนี่ย มีที่มายังไง
เดี๋ยวไว้จะหาเรื่องสนุกๆเกี่ยวกับเทศกาลคริสมาสต์มากฝากใหม่นะ ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น